10 หนังสงคราม แอคชั่น-สุดมันส์ สร้างจากเรื่องจริง

เว็บไซต์รีวิวหนัง ดูหนังออนไลน์ เว็บไซต์ www.mportalik.com ได้จัดอันดับและรีวิวภาพยนตร์สงคราม หรือ หนังสงคราม และแอคชั่นสุดมันส์ 10 เรื่อง ที่สร้างจากเรื่องจริงในหน้าประวัติศาสตร์โลก โดยภาพยนตร์สงครามเป็นแนวทางบันเทิงที่ถ่ายทอดเรื่องราวการต่อสู้และความขัดแย้งอันเข้มข้น มักได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และเรื่องจริงในอดีต ซึ่งนำเสนอเนื้อหาที่สะท้อนถึงความรุนแรงของสงคราม พร้อมทั้งสอดแทรกบทเรียนสำคัญจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์

ภาพยนตร์เหล่านี้ไม่เพียงแต่ให้ความตื่นเต้นจากฉากต่อสู้ที่ดุเดือด แต่ยังเชื่อมโยงผู้ชมกับมิติของดราม่าที่ลึกซึ้งและมนุษยธรรมในท่ามกลางความโหดร้ายของสงคราม

บนแพล็ตฟอร์ม mportalik.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์รีวิวหนัง และ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง ขอแนะนำภาพยนตร์สงคราม 10 เรื่องที่สร้างจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์จริง ตั้งแต่ผลงานคลาสสิกที่ยังคงตราตรึงใจ ไปจนถึงภาพยนตร์รางวัลยอดเยี่ยมที่คอหนังไม่ควรพลาด โดยภาพยนตร์สงครามที่น่าสนใจทั้งหมดมีดังต่อไปนี้

10 หนังสงคราม มันส์ ๆ สร้างจากเรื่องจริง ถอดบทเรียนจากประวัติศาสตร์

  • Apocalypse Now (1979): ภาพยนตร์สงครามเวียดนามสุดคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนวนิยาย Heart of Darkness ผลงานการกำกับของ Francis Ford Coppola ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ผู้กองวิลลาร์ด” นายทหารที่ได้รับมอบหมายภารกิจเสี่ยงชีวิตในการเดินทางลึกเข้าไปในเขตสงครามเพื่อตามหา “ผู้พันเคิร์ทซ์” ตำนานนายทหารที่กลับถูกกล่าวหาว่าคลุ้มคลั่งและสังหารผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก
    ตลอดเส้นทางที่ผ่านดินแดนป่าในกัมพูชาและเวียดนาม ผู้กองวิลลาร์ดต้องเผชิญกับความโหดร้ายของสงครามในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ความทุกข์ทรมานของทหารและพลเรือน ไปจนถึงสภาวะจิตใจที่แตกสลายของผู้คน ฉากในภาพยนตร์ถ่ายทอดความกดดันและความขัดแย้งทางอารมณ์ด้วยมุมมองศิลปะและบรรยากาศที่ตึงเครียดได้อย่างสมจริง จนทำให้ผู้ชมรู้สึกติดอยู่ในความทรงจำที่ยากจะลืม
    Apocalypse Now (1979)
  • Schindler’s List (1993): หนึ่งในภาพยนตร์สงครามที่ไม่ควรพลาด ซึ่งสามารถรับชม ดูหนังออนไลน์ ได้ทาง Netflix ฟรี เรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์จริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และบอกเล่าเรื่องราวความโหดร้ายของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวโดยกองทัพนาซี ภาพยนตร์มีเอกลักษณ์ด้วยการใช้ภาพโทนขาวดำตลอดทั้งเรื่อง พร้อมการใช้สีอย่างมีความหมาย โดยเฉพาะ “เด็กหญิงในชุดสีแดง” ที่สามารถตีความได้หลากหลายแง่มุมและเป็นสัญลักษณ์สำคัญในเรื่องภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของนักธุรกิจชาวเยอรมันที่เปลี่ยนเส้นทางชีวิตของตนเพื่อช่วยเหลือเชลยชาวยิวจากความตาย เรื่องราวเต็มไปด้วยความเศร้าและสะเทือนใจ ซึ่งเมื่อดูจบแล้ว จะทำให้ผู้ชมตระหนักถึงความสำคัญของความรัก และ ความเมตตา ต่อเพื่อนมนุษย์อย่างลึกซึ้ง
    Schindler’s List (1993)
  • Braveheart (1995): หนึ่งในภาพยนตร์สงครามที่ประทับใจผู้ชมมากมาย เรื่องราวของ “วิลเลียม วอลเลซ” บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์สก็อตแลนด์ ที่กลายเป็นหัวหน้ากบฏเพื่อต่อต้านการปกครองของอังกฤษ เมื่อ “Edward Longshanks” พยายามเข้าครองบัลลังก์สกอตแลนด์
    วอลเลซซึ่งเคยสูญเสียภรรยาจากการกระทำอันโหดร้ายของทหารอังกฤษ ตัดสินใจที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อเสรีภาพ การลุกขึ้นต่อสู้ของเขากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญของชาวสก็อต กระตุ้นให้ประชาชนรวมตัวกันจับอาวุธเพื่อต่อสู้เพื่ออิสรภาพของมาตุภูมิ เรื่องราวแห่งความกล้าหาญนี้ยังคงถูกเล่าขานและจดจำจนถึงปัจจุบัน
    Braveheart (1995):
  • Saving Private Ryan (1998): เป็นภาพยนตร์สงครามสุดยอดที่เริ่มต้นด้วยฉากต่อสู้ที่ดุเดือด ถ่ายทอดความโหดร้ายของสงครามได้อย่างเข้มข้นและสมจริง เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ “ร้อยเอกจอห์น มิลเลอร์” ได้รับภารกิจพิเศษที่ท้าทายอย่างยิ่งภารกิจนี้คือการนำตัว “พลทหารเจมส์ ไรอัน” กลับบ้าน หลังจากที่พี่น้องของเขาทั้งหมดเสียชีวิตในสนามรบ ด้วยความหวังว่าจะรักษาชีวิตของเขาไว้เพื่อครอบครัว แต่ภารกิจนี้กลับเต็มไปด้วยความเสี่ยง มีทหารหลายคนที่ต้องสละชีวิตเพื่อให้การค้นหาไรอันสำเร็จในท่ามกลางความรุนแรงและความไม่แน่นอนของสงคราม
    Saving Private Ryan (1998):
  • Pearl Harbor (2001): “Pearl Harbor” เล่าเรื่องราวของเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์เมื่อฐานทัพเรือสหรัฐฯ ที่อ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์ถูกโจมตีอย่างรุนแรงโดยกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การโจมตีครั้งนี้ส่งผลให้มีการสูญเสียชีวิตของทหารและประชาชนจำนวนมาก และเป็นเหตุการณ์สำคัญที่นำไปสู่การเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการแม้ว่าเนื้อเรื่องจะอิงจากเหตุการณ์จริง แต่ผู้สร้างได้เติมเต็มองค์ประกอบด้านดราม่าและความรักของตัวละคร เพื่อเพิ่มความบันเทิงและดึงดูดอารมณ์ของผู้ชม ฉากความรักที่ซาบซึ้งใจและเรื่องราวดราม่าที่เข้มข้นทำให้ผู้ชมรู้สึกประทับใจ จนทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์สงครามที่ถูกจดจำมากที่สุด
    Pearl Harbor (2001)
  • Hacksaw Ridge (2016): “Hacksaw Ridge” เป็นภาพยนตร์สงครามที่สร้างจากเรื่องจริงของ “เดสมอนด์ ดอสส์” (Desmond Doss) แพทย์สนามชาวอเมริกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ดอสส์ยึดมั่นในหลักการที่แน่วแน่ในการไม่ถืออาวุธและไม่ฆ่าคน โดยมีเป้าหมายในการช่วยชีวิตเพื่อนทหารให้มากที่สุดโดยไม่ใช้ความรุนแรงความกล้าหาญของเขาถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เมื่อเขาสามารถช่วยชีวิตทหารจำนวนมากในแนวหน้าท่ามกลางห่ากระสุน ดอสส์กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเสียสละและความกล้าหาญอย่างแท้จริง และหลังสงครามสิ้นสุดลง เขายังได้รับเหรียญกล้าหาญจากประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเพื่อเชิดชูเกียรติในสิ่งที่เขาทำ ซึ่งจะไม่มีใครลืม
    Hacksaw Ridge (2016)
  • 13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi (2016): “13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi” ถ่ายทอดเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2012 เมื่อกลุ่มกองกำลังติดอาวุธโจมตีสถานกงสุลสหรัฐในเมืองเบงกาซี ประเทศลิเบีย การโจมตีครั้งนี้สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วโลก โดยเฉพาะการสูญเสียเอกอัครราชทูตสหรัฐในลิเบียท่ามกลางความโกลาหลและอันตรายในคืนนั้น เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย 6 นายกลายเป็นความหวังหลักในการปกป้องชีวิตของทูตและพนักงานคนอื่นๆ พวกเขาต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาล บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว และการต่อสู้อย่างดุเดือดที่ยาวนานหลายชั่วโมง ทุกนาทีเต็มไปด้วยความตึงเครียด และการตัดสินใจที่ต้องถูกต้องในสถานการณ์ที่เลวร้าย หนังเรื่องนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความกล้าหาญ แต่ยังสอนเราเกี่ยวกับความเสียสละของเหล่าทหารที่ต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนในสนามรบ
    13 Hours
  • Dunkirk (2017): “Dunkirk” เป็นผลงานชิ้นเอกของคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่เล่าเรื่องสงครามในรูปแบบที่แตกต่างจากภาพยนตร์สงครามทั่วไป หนังมุ่งเน้นไปที่ “ยุทธการดันเคิร์ก” ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1940 เมื่อทหารฝ่ายสัมพันธมิตรเกือบ 400,000 นาย ทั้งจากอังกฤษและฝรั่งเศส ต้องอพยพอย่างเร่งด่วนจากชายหาดดันเคิร์กในฝรั่งเศสตอนเหนือ ในช่วงวิกฤติเมื่อกองทัพนาซีกำลังรุกเข้ามาอย่างหนักแทนที่จะเน้นที่ฉากการต่อสู้อันดุเดือด โนแลนกลับเลือกที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของความหวัง การเอาตัวรอด และความกล้าหาญในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง โดยสื่อให้เห็นว่าผู้ชนะที่แท้จริงไม่ใช่ผู้ที่อยู่เหนือสงคราม แต่คือผู้ที่สามารถมีชีวิตรอดและกลับบ้านได้
    Dunkirk (2017)
  • 12 Strong (2018): “12 Strong” เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวจริงและกล้าหาญหลังเหตุการณ์ก่อวินาศกรรม 911 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 ซึ่งเครื่องบินโจมตีเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในสหรัฐอเมริกา ภาพยนตร์นี้เผยให้เห็นเรื่องราวที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อนเกี่ยวกับภารกิจของทหารหน่วยรบพิเศษสหรัฐฯ เพียง 12 นาย ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติการในพื้นที่ทะเลทรายของอัฟกานิสถานหลังจากการโจมตีที่ทำให้ประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤติ สหรัฐฯ ตัดสินใจส่งทหารหน่วยรบพิเศษไปยังอัฟกานิสถานเพื่อสร้างพันธมิตรกับกลุ่มในพื้นที่และวางแผนการต่อสู้กับกลุ่มตอลิบัน การปฏิบัติการนี้มีความเสี่ยงและท้าทายอย่างมาก ทหารเหล่านี้ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งและทุรกันดาร รวมถึงศัตรูที่เชี่ยวชาญในการใช้ภูมิประเทศเป็นอาวุธสิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์นี้โดดเด่นไม่ใช่แค่ความกล้าหาญในการปฏิบัติภารกิจ แต่ยังรวมถึงการต่อสู้บนหลังม้า ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ค่อยเห็นในสงครามยุคใหม่ การต่อสู้ในทะเลทรายบนหลังม้าสร้างความเข้มข้นและความตื่นเต้นให้กับเรื่องราว ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความท้าทายที่ทหารเหล่านี้ต้องเผชิญ“12 Strong” ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวของการต่อสู้ แต่ยังเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นและการเสียสละของกลุ่มชายผู้ทุ่มเทเพื่อปกป้องประเทศและเสรีภาพ ภาพยนตร์นี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความกล้าหาญของทหารกับการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและสันติภาพในโลกที่ไม่สงบ สามารถติดตามรับชม ดูหนังสงคราม ทุกเรื่องได้ฟรีที่ Doonung24HD.com
    12 Strong (2018)
  • “1917” (2019): เราขอปิดท้ายด้วยหนึ่งในผลงานสงครามที่โดดเด่นที่สุดแห่งทศวรรษอย่าง “1917” ซึ่งเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมจากผู้กำกับแซม เมนเดส (Sam Mendes) ที่ไม่เพียงแต่คว้ารางวัลออสการ์และลูกโลกทองคำมากมาย แต่ยังได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการภาพยนตร์“1917” เล่าเรื่องราวของทหารหนุ่มสองคนที่ได้รับมอบหมายภารกิจชีวิตและความตายในการข้ามสมรภูมิที่น่าสะพรึงกลัวของสงครามโลกครั้งที่ 1 ภารกิจของพวกเขาคือการส่งข่าวสารสำคัญไปยังอีกฟากของสนามรบ เพื่อหยุดยั้งการโจมตีที่อาจทำให้ทหารอังกฤษจำนวนมากเสียชีวิต ภารกิจนี้มีความเร่งด่วนอย่างยิ่ง เพราะความล้มเหลวในการดำเนินการจะนำไปสู่ความหายนะที่เกิดขึ้นกับเพื่อนทหารจำนวนมาก

    หนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญของ “1917” คือการใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบลองเทค (Long Take) ที่น่าทึ่ง ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกต่อเนื่องและความมีส่วนร่วมของผู้ชม เทคนิคนี้ทำให้ฉากต่างๆ ดูเหมือนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันโดยไม่หยุดหย่อน ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนติดตามการผจญภัยของตัวละครอย่างใกล้ชิด พร้อมสัมผัสถึงความตึงเครียดและความเป็นจริงของสนามรบได้อย่างเต็มที่

    ภาพยนตร์นี้ยังสะท้อนเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ของคุณปู่ของเมนเดส ทำให้ “1917” มีความเป็นจริงและความลึกซึ้งในมิติของมนุษย์ นอกจากนี้ การถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครผ่านการทำงานอย่างละเอียดในการถ่ายทำ ยังทำให้เรื่องราวนี้เป็นบทเรียนเกี่ยวกับความกล้าหาญ การเสียสละ และความทุ่มเทที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

    ในที่สุด “1917” ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอประสบการณ์ที่ดึงดูดและท้าทายจินตนาการของผู้ชม แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และความเป็นเลิศในศิลปะการทำภาพยนตร์ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลก
    1917 (2019)

บทสรุปการจัดอันดับหนังสงคราม แอคชั่นสุดมันส์ สร้างจากเรื่องจริง

ในโลกของภาพยนตร์สงคราม หรือ หนังสงคราม เราได้สัมผัสกับความจริงและอารมณ์ที่ลึกซึ้งจากการต่อสู้ที่ไม่มีวันจบสิ้น แม้ว่าจะมีหนังสงครามหลายเรื่องที่เราได้พูดถึงไปแล้ว แต่ก็ยังมีอีกมากมายที่สามารถนำเสนอให้เราได้เห็น หนังสงครามที่ดีไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังสอนเราเกี่ยวกับความกล้าหาญ ความสูญเสีย และความยิ่งใหญ่ของมนุษย์ในช่วงเวลาที่ท้าทาย

หนังสงครามบางเรื่องสามารถถ่ายทอดความสมจริงของการต่อสู้และผลกระทบที่ตามมาได้อย่างยอดเยี่ยม พวกมันพาเราเข้าไปในโลกที่เต็มไปด้วยการตัดสินใจที่ยากลำบาก ความกล้าหาญของทหารที่เผชิญกับอันตราย และความเสียสละที่มักไม่ถูกกล่าวถึงในบทเรียนประวัติศาสตร์ทั่วไป เรื่องราวเหล่านี้ไม่เพียงทำให้เราตื่นเต้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และบทเรียนที่มีคุณค่า

หนังสงครามที่สร้างสรรค์ช่วยให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจริง และยังช่วยให้เราเข้าใจถึงความซับซ้อนของมนุษย์ในสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา เช่น การพิจารณาความกล้าหาญในขณะที่ต้องตัดสินใจระหว่างการปกป้องเพื่อนทหารหรือปฏิบัติตามคำสั่ง รวมไปถึงการสำรวจการเสียสละที่ไม่เห็นแก่ตัวเพื่อความสงบสุขในอนาคต

หากคุณมีเวลาว่างและต้องการสัมผัสเรื่องราวที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความหมาย อย่าลืมค้นหาหนังสงครามที่มีคุณภาพ ซึ่งไม่เพียงแต่เน้นฉากแอ็กชัน แต่ยังนำเสนอแนวคิดลึกซึ้งเกี่ยวกับการต่อสู้และประสบการณ์ของผู้คนในสงคราม ด้วยศักยภาพในการกระตุ้นให้เราตั้งคำถามและทบทวนความหมายของความกล้าหาญและการเสียสละ หนังสงครามที่ดีจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในเวลาของคุณ